หนึ่งในรูปแบบธุรกิจที่ Chris Anderson ได้มีพูดถึงไว้ใน “Free: The Future of radical price” อย่าง “Three-party Market” ในโลกของ Telecom Business ที่จะมีบุคคลที่ 3 มาออกค่าใช้จ่ายให้ ก็มีเหมือนกัน อาทิเช่น ค่าโทรฟรี ค่าส่งข้อความฟรี เป็นรูปแบบธุรกิจที่เห็นได้บ่อย ระหว่างผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ นักโฆษณา และ ผู้ใช้บริการ
ย้อนกลับไปในปี 2006 บริการที่ชื่อ Sugar Mama ของ Virgin Mobile ในสหรัฐอเมริกา (ซึ่งล่าสุดกำลังขายกิจการให้ Sprint Nextel) เสนอบริการ Mobile Advertising เป็นการแลกการชมโฆษณาเพื่อที่จะได้รับนาทีสำหรับโทรฟรี แต่นักโฆษณาก็ไม่ยอมง่ายๆเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า ลูกค้าดังกล่าวได้ชมโฆษณาจริงหรือไม่ ก็ต้องมีการตอบคำถามกันสักเล็กน้อยก่อนได้รับ benefit ไป ; )
แต่กรณีศึกษาที่ถูกนักการตลาด จับตามองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาและพูดถึงในยุโรปค่อนข้างมาก คงหนีไม่พ้น “Blyk” บริษัทที่ก่อตั้งในประเทศฟินแลนด์ในปี 2006 และข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดให้บริการแบบ Mobile Virtual Network Operator (MVNO) ในประเทศอังกฤษช่วงกลางปี 2007 ที่ว่าทำไมถูกจับตามองค่อนข้างมาก เพราะ “Blyk” วาง position ตัวเองชัดเจนที่จะเป็นผู้ให้บริการต่างๆบนโทรศัพท์มือถือฟรี และเป็นเสมือนโครงการนำร่องและกรณีศึกษาให้กับผู้ที่สนใจจะให้บริการ Mobile Advertising ในอนาคตต่อไปเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามวันนี้คงไม่ได้เน้นนำเสนอว่า “Blyk” มีรูปแบบการทำตลาดอย่างไร เพราะมีหลายบทความที่กล่าวถึงรูปแบบบริการดังกล่าวค่อนข้างมากแล้วในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ถ้าใครไม่เคยรู้จักมาก่อน แนะนำให้ดู Vdo Clip ข้างล่างกับความยาวเพียงแค่ 1นาทีครึ่ง สามารถอธิบายถึงรูปแบบของบริการดังกล่าวได้อย่างชัดเจน
หลังจากดูข้อมูลคร่าวๆแล้ว ก็นับว่าเป็นบริการที่น่าสนใจเลยทีเดียว ในช่วง 5 เดือนแรกสามารถมีสมาชิก 200,000 ราย “Blyk” สามารถออก campaigns ร่วมกับบริษัทดังๆใหญ่ๆอย่าง Coca-cola, Colgate, Penguin Book, L’Oreal, BBC เป็นต้น รวมแล้วมากกว่า 2,000 campaigns และได้ผลตอบรับของโฆษณาค่อนข้างใช้ได้ เพราะส่วนนึงมีระบบการจัดเก็บข้อมูลความสนใจของสมาชิกเอาไว้ด้วย
ฟังดูแล้วเหมือนน่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่กับปรากฎว่าตัวเลขสมาชิกที่ 200,000 กว่านั้นแทบไม่เพิ่มขึ้น และผิดจากเป้าหมาย 4.5 ล้านเป็นอย่างมาก ถ้าใครได้ติดตามข่าวในวงการก็จะทราบว่า “Blyk” ได้ออกมาประกาศว่าไม่สามารถที่จะยืนหยัดเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในรูปแบบนี้รายเดียวได้แล้ว ล่าสุดต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่จับมือหา partner โดยจะเริ่มต้นกับ Orange UK ก่อนเป็นรายแรกในเดือนหน้าเพื่อนำเสนอต่อคนกลุ่มใหญ่กว่าเดิม และวางแผนที่จะก้าวไปจับมือกับผู้ให้บริการอื่นๆในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะเอเชีย
ทางผู้บริหารของ “Blyk” เองออกมายอมรับว่า การที่ “Blyk” ดำเนินธุรกิจ MVNO นั้นทำให้เป็นอุปสรรค และเป็นข้อจำกัดในการสร้างสมาชิกใหม่กับ Brand ใหม่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นที่รู้กันดีว่า จำนวนสมาชิกใหม่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะดึงดูดนักโฆษณาให้มาร่วม campaign ถ้าเกิดปัญหาดังกล่าวย่อมไม่สามารถที่จะเดินต่อไปได้อย่างราบรื่น
หลังจากที่ตัดข้อจำกัดสำคัญออกไปแล้ว ต่อจากนี้คงต้องดูกันต่อว่า การให้บริการในรูปแบบดังกล่าวจะสำเร็จมากน้อยเพียงใด Blyk มองว่าการโฆษณาแบบเสนอให้ดูก่อน แล้วค่อยให้ benefit ความน่าเชื่อถือที่ลูกค้าได้รับชมจริงรวมถึงความผูกพันกับ brand อาจมีไม่สูงนัก ทำให้ Blyk ก็พยายามคิดค้นรูปแบบวิธีการใหม่ๆเพื่อให้ Win-Win กับทุกฝ่าย แต่ก็ยังมีโจทย์อื่นๆที่ต้องพิสูจน์ในธุรกิจของ Mobile Advertising อีก เช่น
- ถึงแม้มีฐานข้อมูลความสนใจของสมาชิกและส่งโฆษณาตรงใจกลุ่มสมาชิกแล้วก็ตาม แต่คนที่ต้องการรับนาทีโทรฟรี ก็อาจชอบหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายอย่างอื่นด้วยเช่นกัน คนกลุ่มนี้ควรจะนำเสนออย่างไร เพราะอาจไม่มีผลต่อยอดขายของสินค้าหรือบริการจริงมากนัก เป็นต้น
ข้อมูลอ้างอิง g2i , blyk , Businessweek
ขอบคุณครับ เป็น case study ที่น่าสนใจครับ
ขอบคุณมากนะคะ ที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม blog พึ่งมีบทความใหม่เรื่อง Augmented Reality ที่นำมาประยุกต์ใช้กับ Mobile Media/Mobile Marketing ลองแวะไปเยี่ยมชมกันได้ที่ => http://bit.ly/2L94Uh
^^
^_^
ยังต้องดูต่อไปว่า
การปรับตัวครั้งนี้
จะเป็นการ พลิกฟื้น หรือ เตรียมตัวปิด
เนอะ